ธนาคารกรุงเทพ ประกาศขึ้นดอกเบี้ย “เงินฝาก-เงินกู้” มีผลตั้งแต่ 29 ก.ย.65
ธนาคารกรุงเทพ ปรับอัตราค่าดอกเบี้ยเงินออมและก็เงินกู้ยืมมากขึ้น ตามการคาดคะเนถึงแนวโน้มการฟื้นฟูสภาพของเศรษฐกิจที่กระจ่างขึ้นและก็เพื่อช่วยลดการเสี่ยงที่เงินเฟ้อจะปรับสูงมากขึ้น
นางรัชนี นพเมือง รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวมาว่า ธนาคารประกาศปรับอัตราค่าดอกเบี้ยเงินออมรวมทั้งเงินกู้ยืมมากขึ้น โดยอัตราค่าดอกเบี้ยเงินออมปรับมากขึ้น 0.15-0.50% ต่อปี ส่วนอัตราค่าดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อ เอ็มแอลอาร์ (MLR) หรืออัตราค่าดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นเลิศ ชนิดเงินกู้ยืมแบบมีช่วงเวลา (Minimum Loan Rate) มากขึ้น 0.40% ต่อปี เอ็มโออาร์ (MOR) หรืออัตราค่าดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นหนึ่ง จำพวกเงินเบิกเกินบัญชี (Minimum Overdraft Rate) มากขึ้น 0.375% ต่อปี เอ็มอาร์อาร์ (MRR) หรืออัตราค่าดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยเกรดเอ (Minimum Retail Rate) มากขึ้น 0.30% ต่อปี โดยส่งผลเมื่อวันที่ 29 ก.ย. 2565
ธนาคารกรุงเทพ ปรับขึ้นอัตราค่าดอกเบี้ยอีกทั้งเงินออมแล้วก็เงินกู้ยืม จากเหตุการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ที่เริ่มคลี่คลายลง นำมาซึ่งการทำให้กิจกรรมด้านเศรษฐกิจของเมืองไทยไปสู่ธรรมดา ปริมาณนักเดินทางต่างประเทศมากขึ้นโดยตลอด ท่ามกลางความปั่นป่วนของเศรษฐกิจโลกที่กำลังประสบพบเจอปัญหาเงินเฟ้อ ทำให้คณะกรรมการแนวทางการคลัง (กนง.) ปรับขึ้นดอกหลักการเป็นครั้งที่ 2 ตามการคาดเดาถึงแนวโน้มการฟื้นฟูสภาพของเศรษฐกิจที่แจ่มแจ้งขึ้น รวมทั้งเพื่อช่วยลดการเสี่ยงแนวโน้มของค่าเงินบาท รวมทั้งเงินเฟ้อที่จะปรับสูงมากขึ้นไปกว่านี้ ธนาคารกรุงเทพ ก็เลยปรับอัตราค่าดอกเบี้ยเงินออมรวมทั้งเงินกู้ยืมมากขึ้น ให้สอดคล้องกับคณะกรรมการแผนการการคลัง (กนง.) ดังนี้ การปรับขึ้นดอกเงินออมจะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับกรุ๊ปผู้ฝากเงิน รวมทั้งเพื่อเป็นการช่วยทุเลาผลพวงกับกรุ๊ปบอบบาง ในด้านเงินกู้ยืม แบงค์ก็เลยได้ปรับอัตราค่าดอกเบี้ย MRR ในอัตราที่น้อยกว่าอัตราค่าดอกเบี้ยเงินกู้ยืมอื่นๆ
